Sunday, February 24, 2013

แปรงแต่งหน้า สำหรับผู้ที่เริ่มต้นแต่งหน้า (Basic Makeup Brushes for Beginners)




 
มาเริ่มกันที่การเลือกแปรง โดยทั่วไปหลักๆ นะค่ะ
แปรงที่ทำจากขนสัตว์เหมาะกับผลิตภัณ์แห้ง พวกแป้ง ทั้งฝุ่นและอัดแข็ง บลัช บลอนเซอร์ อายชาโดว์
ส่วนแปรงขนสังเคราะห์เหมาะกับ ผลิตภัณ์เหลว พวกครีม ฟาวน์เดชั่น บลัชครีม ครีมบลอนเซอร์
คอนเซ็ปต์หลักๆ จะประมาณนี้แต่ จริงๆ แล้วแปรงบางอันก็สามารถใช้ได้ทั้งครีมและฝุ่นแต่สิ่งสำคัญคือความสะอาด หากคุณใช้กับครีมก็ควรทำความสะอาดแล้วตากให้แห้งก่อนแล้วถึงเอามาใช้กับผลิตภัณฑ์แบบแห้งนะค่ะ

 
แปรงที่ดีนั้นควรง่ายต่อแบลน และสีติดแปรงในประมาณพอเหมาะ ไม่ล่วงเลอะตอนเราแต่งหน้า  ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและ มีอายุการใช้งานยาวนาน หากใช้งาน ทำความสะอาดไประยะหนึ่ง แปรงไม่เปลี่ยนรูป และขนไม่หลุดง่าย ปกติแล้วแปรงใหม่อาจมีหลุดแต่หากคุณใช้งาน ทำความสะอาดไปจะหลุดน้อยลง จนไม่หลุดเลย ที่สำคัญขนแปรงต้องไม่หยาบ หรือแข็ง หากตอนเลือกเราลองจับลองใช้ดูแล้วและรู้สึกหยาบอย่าซื้อนะค่ะ เพราะแม้แต่จับยังหยาบหากเอามาใช้กับหน้าจะระคายเคืองต่อผิวเดี๋ยวต้องไปหาหมอเสียตังค์อีก
ถ้าเค้ามีให้ลองก็ลองเอาสัมผัสกับผิวบริเวณแขนด้านในหรือไหปลาร้าดู ไม่ค่อยอยากให้ทดลองกับหน้า เพราะคาดว่าเค้าไม่ล้างแน่ :) แต่หากไปเคาน์เตอร์ เช่น MAC ที่เค้ามีแปรงขายเยอะ และเค้ามีให้ทดลอง ก็ถาม บีเอ ขอทดลองใช้ดูเลยค่ะ ทาง MAC เค้ามี Brush Cleanser แต่ต้องบอกคุณๆ ไว้อย่างว่าแปรงของบีเอจะหยาบกว่าแปรงจริงที่แกะใหม่จากซองพลาสติกเพราะบีเอต่อวันเค้าให้บริการลูกค้าหลายคนและ บีเอหนึ่งคนมีเพียงแปรงหนึ่งชุด การใช้ Brush Cleanser  จะสะดวกง่าย และแห้งเร็วในการทำความสะอาดแต่การใช้ Brush Cleanser  มากๆ ซึ่งมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หลายๆ ครั้งต่อวันจะไม่เป็นผลดีเท่าไหร่ต่อแปรงโดยเฉพาะแปรงที่ทำจากขนสัตว์ค่ะ 
เอาละค่ะ...สำหรับคุณๆ ที่ชอบการแต่งหน้าและกำลังคิดที่จะหาแปรงแต่งหน้ามาใช้ประจำวัน มาดูกันค่ะว่าแปรงที่เราต้องการ และควรมีสำหรับการแต่งหน้าของเรามีอะไรบ้าง มาดูกันเลยนะ :)
1) แปรงสำหรับแป้ง (ควร)เป็นแปรงที่ทำมาจากขนสัตว์ ขนนุ่ม ขนาดใหญ่กว่าแปรงอื่นๆ ปกติแล้วใช้กับแป้งและบลอนเซอร์ได้ หากคุณเลือกขนาดเล็กลงไปหน่อยก็ได้ หากคิดว่าไม่ได้ใช้ทุกวันหรือเพื่อใช้กับ บลัชได้ด้วย ที่นำมาให้ดูตัวอย่าง คือ
แปรง MAC 150, 138, Real Techniques powder brush(ขนสังเคราะห์) ,Hakuhodo K022 , B509, RMK Face powder brush

 
Hakuhodo B509 , RMK Face powder brush ,Hakuhodo K022, MAC 150 , MAC 138 ,Real Techniques powder brush
 


Real Techniques powder brush , MAC 150 , MAC 138

Hakuhodo K022 , RMK Face powder brush ,Hakuhodo B509
 
2) แปรงสำหรับแก้ม ใช้สำหรับบลัชและบลอนเซอร์ เป็นแปรงที่ให้ใบหน้าของคุณดูระเรื่อ หรือแก้มแดงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ หรือทำให้ดูแทนสุขภาพดี หรือแม้แต่ทำให้หน้าคุณดูแก้มตอบลงได้ แปรงนี้อาจคล้ายกับตัวข้างบน แต่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อที่จะให้เหมาะกับการใช้งานที่แม่นยำมากขึ้น
ตัวอย่าง คือ แปรง MAC 109, 129, 138 ,168, 188 ,Hakuhodo G5521BkSL, Real Techniques contour brush และ Nars Yachiyo

 
MAC 109, 129, 138 ,168, 188 ,Real Techniques contour brush,Hakuhodo G5521BkSL, Nars Yachiyo

 
MAC168, 138, 129, 109
 
 
Nars Yachiyo, Hakuhodo G5521BkSL, Real Techniques contour brush, MAC 188
 
3) แปรงลงอายชาโดว์ เป็นแปรงขนาดเล็กขนนุ่ม ใช้สำหรับลงสีอายชาโดว์ พวกแบบที่เป็น Duo Fibre โดยส่วนตัวเราจากการใช้เป็นแปรงที่ใช้ได้ดีที่สุดกับอายชาโดว์พวกที่มีกลิทเตอร์ และพวก Mineralize Eyeshadow  ค่ะ
ตัวอย่าง คือ แปรง Hakuhodo J242, MAC 239, 272, 213, 242, 252, 214, 215, 259, 287
ทดลองใช้ดูว่าคุณถนัด ขนาด หรือรูปร่างแบบไหนนะค่ะ
 

Hakuhodo J242, MAC 239, 272, 213, 242, 252, 214, 215, 259, 287

 
Hakuhodo J242, MAC 239, 272, 213, 242, 252
 
MAC 214, 215, 259, 287
4) แปรงเบลน อันนี้จะช่วยให้ ทุกอย่างดูสวยเป็นธรรมชาติมากขึ้น หรือทำให้ได้ลุคสโมคกี้อาย
ตัวอย่าง คือ แปรง Hakuhodo J5522, G5533,  G5523, J5523, Coastal Scents 250, BR-C-N06, MAC 217, 222, 224 ,234, 286
 
 
MAC 222 ,217 , Coastal Scents 250, Hakuhodo J5523, J5522

 
Hakuhodo G5533, G5523, Coastal Scents BR-C-N06, MAC 286, 234, 224
 
แปรงในแบบที่ 4 นี้อย่างที่บอกขึ้นอยู่กับความถนัดของตัวคุณเอง คุณอาจจะใช้ทั้งการลงอายชาโดว์และเบลน อันนี้ขึ้นอยู่กับตัวคุณละค่ะ
 
แปรงอีกอันที่โดยส่วนตัวเราคิดว่าหากมีก็ดี คือแปรงปลายฉียง,ปลายตัด ขนาดเล็กๆ ใช้เขียนอายไลเนอร์ ลงอายชาโดว์ขอบตาล่าง หรือใช้เติมคิ้ว จะให้ลุคที่ดูคมและสมบูรณ์แบบมากขึ้น หากคุณไม่มีหรือมีงบประมาณจำกัดแปรงในแบบตัวอย่าง MAC 214 อาจใช้ทดแทนได้นะค่ะเพราะเป็นแปรงที่อยู่ทรงและสามารถใช้กับงานที่ต้องการรายละเอียดได้ดีแต่ดูอาจจะแข็งๆ ยังไงต้องเบลนให้ดูฟุ้งนิดหน่อย
และหากคุณชอบลงฟาวน์เดชั่นด้วยแปรงก็เพิ่มอีก หนึ่งอัน หากไม่...คุณก็สามารถใช้มือหรือฟองน้ำตามถนัดได้เลยค่ะ

 Smashbox, Sigma F82, Real Techniques Stippling brush, Real Techniques buffing brush, MAC 187, Hakuhodo G544  
 
 
Shiseido Maquillage Foundation Brush ,Chikuhodo G-10 , Shiseido Foundation Brush , Kosé ESPRIQUE Foundation Brush, Real Techniques Buffing Brush,Sigma F82 ,Coastal Scents Bionic Flat Top
Shiseido Foundation Brush , Kosé ESPRIQUE Foundation Brush, Real Techniques Buffing Brush,Sigma F82 ,Coastal Scents Bionic Flat Top
 
 
 
Smashbox Foundation Brush ,Shiseido Maquillage Foundation Brush ,Chikuhodo G-10
 
ป.ล แปลงทุกอันในโพสต์อันนี้ ใช้เพื่อเป็นตัวอย่างนะค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องใช้แบรนด์เดียวกับในโพสต์แต่ใช้สำหรับเป็นตัวอย่างในการเลือกรูปแบบเท่านั้น ที่สำคัญรักษาทำความสะอาดดีๆ นะค่ะ เค้าจะได้อยู่กับเราไปนานๆ

 
*****แต่งหน้าแล้วอย่าลืมล้างหน้าทำความสะอาดให้ดีนะค่ะ*****



เริ่มหัดแต่งหน้า ต้องใช้อะไรบ้าง? (Makeup Kit for Beginners)



สำหรับน้องๆ ที่กำลังคิดเริ่มเเต่งหน้าในวันหยุด หรือน้องๆ ที่กำลังคิดแต่งหน้าไปมหาลัย หรือแม้แต่คุณๆ ที่กำลังคิดว่าเอาล่ะ ฉันจะแต่งหน้าแบบเบาๆ ไปทำงานล่ะน่ะ

แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มซื้อหา หรือการแต่งหน้าเบาๆ นี่ต้องใช้อะไรกันบ้าง มาดูกันดีกว่าค่ะ

 


หลังจากที่เราเตรียมหน้าทาครีมบำรุง และกันแดดเรียบร้อยแล้วสิ่งต่อไปที่เราต้องการคือ
1.เบส หรือ บีบีครีม หรือ ฟาวน์เดชั่น/รองพื้น จะเลือกใช้อันไหนก็ดูพื้นผิวหน้า ความชอบความพอใจนะค่ะ

เบส ใช้สำหรับแก้ไขสีผิวของใบหน้าเรานะค่ะ ในกรณีที่สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีหลายสี เช่นสีเนื้อ สีชมพู สีเขียว สีม่วงเป็นต้นนะค่ะ

จะคล้ายกันกับ “ไพรเมอร์” นะค่ะ แต่ ไพรเมอร์หลักๆ แล้วใช้เพื่อเป็นพื้น หรือตัวคั่นระหว่างผิวกับฟาวน์เดชั่น เติมเต็มพื้นผิวหน้า ช่วยให้ลงฟาวน์เดชั่นง่ายขึ้น ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนขึ้น

ส่วน บีบีครีม จุดขายของตัวนี้คือใช้ปกปิดและบำรุงผิว เพื่อง่ายในการเข้าใจคือกึ่งครีมบำรุงผิวและฟาวน์เดชั่น แต่มีสีให้เลือกน้อยมาก ปกปิดได้น้อยกว่าฟาวน์เดชั่น บีบีครีมเหมาะกับคนที่ไม่ชอบความรู้สึกที่มีเครื่องสำอางค์บนหน้า หรือคนที่มีผิวดีอยู่แล้วนะค่ะ

ฟาวน์เดชั่น/รองพื้น ใช้เพื่อช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ปกปิดรอยสิว และทำให้ผิวหน้าดูสุขภาพดีขึ้นนะค่ะ

การเลือก ฟาวน์เดชั่นขอให้ทดลองแตะบนหน้าเราสักนิดนะค่ะ เลือกสีที่ให้ใกล้เคียงสีผิวหน้าเรามากที่สุด ไม่งั้นอาจทำให้เราดูเหมือนใส่หน้ากาก หรือเกิดการหน้าลอยได้ สำหรับเริ่มแต่งหน้าหากเลือกที่จะใช้ ฟาวน์เดชั่นขอให้เริ่มที่ เป็นครีมเนื้อเหลว เนื้อบาง ง่ายต่อการเกลี่ยและเบลนนะค่ะ

แต่ถ้าหน้าไม่มีอะไรมาก เรียบใสดีแล้ว ก็ข้ามไปอันต่อไปเลย หรือ ปกติหน้าเรียบใส และมีสิวบ้างช่วงนั้นของเดือน ก็เลือกเอาเป็นคอนซีลเลอร์แทน

ตัวอย่างแบรนด์ที่ราคาเบาๆ
เบส (CoverGirl, DHC, Skin Food, Kiss)) หรือ บีบีครีม (Missha, SKIN79, The Face Shop, Skin Food, Maybelline) หรือ ฟาวน์เดชั่น (Revlon, L'oreal, Nuetrogena , Bourjois)


2 แป้ง เเป้งอัดแข็งหรือแป้งฝุ่นก็ได้ แต่จริงๆแล้วหากใช้แป้งอัดแข็งแล้วใช้พัฟ ขอย้ำว่าอย่าหนักมือนะค่ะ อีกวิธีก็ต้องหาแปรง
สำหรับแป้งหนึ่งอัน ก่อนทาก็เคาะออกซะหน่อยเพื่อหน้าเราจะได้ไม่ขาววอก

ตัวอย่างแบรนด์ที่ราคาเบาๆ
(CoverGirl, Maybelline, Bare minerals, Ben Nye)

3 อายชาโดว์ เลือกสีที่ดูเป็นโทนธรรมชาตินะค่ะ น้ำตาล ชมพู ทอง และหนึ่งสีที่แนะนำคือสีน้ำตาลเนื้อแมท เพื่อสีนี้สามารถใช้ได้ทั้งเป็นอายชาโดว์และสำหรับเขียนคิ้วได้ด้วย


ตัวอย่างแบรนด์ที่ราคาเบาๆ
(NYX, KATE, Maybelline)

4 บลัส ส้ม ชมพู พลัม สีอะไรก็ได้ที่คุณชอบ เพื่อใช้ปัดแก้ม จะได้ดูแปร่งปรั่งสุขภาพดี แต่ย้ำอีกนะค่ะว่า อย่าหนักมือ

ตัวอย่างแบรนด์ที่ราคาเบาๆ
(NYX, Maybelline , Bourjois 

5 ที่ดัดขนตา และ มาสคาร่า –มาสคาร่าสามารถเลือกใช้สีใส หรือแบบไม่มีสี สีน้ำตาล หรือสีดำก็ได้


ตัวอย่างแบรนด์ที่ราคาเบาๆ
(CoverGirl, Maybelline, majolica)

6 ลิปสติก/ ลิปกรอส หากน้องๆ กำลังเริ่มแต่งหน้า คิดว่าแค่ลิปกลอสหรือ ลิปบาล์ม เดี๋ยวนี้มีแบบกึ่งลิปบาล์มกึ่งลิปสติกก็มี ดูเป็นธรรมชาติ และใสๆ ดี

ตัวอย่างแบรนด์ที่ราคาเบาๆ
(NYX, L'oreal, Maybelline, Rimmel, CoverGirl)

*อายไลเนอร์ (เริ่มเขียน แบบดินสอหรือแบบแมจิก) หากใช้ก็เขียนบางๆ เส้นเล็กๆ นะค่ะ

*อายชาโดว์ ไพรเมอร์ เจ้าสิ่งนี้ใช้เพื่อช่วยให้อายชาโดว์ติดทน เรียบและไม่เลือนหาย ไม่เป็นรอยหรือกองไปรวมกันระหว่างวันค่ะ

ชุดแต่งหน้าสำหรับมือใหม่ 6 ชิ้น (แบรนด์ไม่สำคัญใช้แค่เป็นตัวอย่างนะค่ะ)

 

- บีบีครีม (Skinfood BB cream)

- แป้ง (MAC Blot Powder)
- อายชาโดว์ + บลัส (Stila Living The Life In Laguna Palette)
- ที่ดัดขนตา (Kanebo Eyelash Curler)
- มาสคาร่า (Shiseido - Majolica Majorca Lash Enamel Glamour)
- ลิปกรอส (MAC Cremesheen Glass)
*สำหรับคุณๆ ที่ไม่ชอบความรู้สึกของการใช้กรอสลองเริ่มกับพวกลิปทินต์คอนดิชันเนอร์ดูนะค่ะเผื่อจะชอบ
ชุดแต่งหน้าสำหรับมือใหม่ 8 ชิ้น (แบรนด์ไม่สำคัญใช้แค่เป็นตัวอย่างนะค่ะ)


· คอนซีลเลอร์ (MAC Studio Finish Concealer)

· แป้ง (MAC Mineralize Skinfinish Natural)

· อายชาโดว์ (MAC Eyeshadow Quad)

· ที่ดัดขนตา (Shiseido Eyelash Curler)

· มาสคาร่า (CoverGirl LashBlast Volume Mascara-Brown 815)

· บลัส (MAC Immortal Flower Blush)

· ลิปสติก (MAC Cremesheen + Pearl)

· ลิปกรอส (MAC Cremesheen Glass)

ชุดแต่งหน้าสำหรับมือใหม่ 9 ชิ้น


· ฟาวน์เดชั่น (NARS Sheer Glow Foundation)

· แป้ง (MAC - Prep + Prime Transparent Finishing Powder)

· อายชาโดว์ไพรเมอร์ (Too Faced Shadow Insurance)

· อายชาโดว์ (Urban Decay Naked 2 Palette)

· อายไลเนอร์ (Stila Waterproof Liquid Eyeliner)

· ที่ดัดขนตา (Shiseido Eyelash Curler)

· มาสคาร่า (Dior mini mascara)

· บลัช (NARS Gilda Blush)

· ลิปสติก (Chanel Rouge Allure)
 
ชุดแต่งหน้าสำหรับมือใหม่ 10 ชิ้น

  • ฟาวน์เดชั่น (CHANEL  Perfection Lumiere foundation )

  • คอนซีลเลอร์ (CHANEL correcteur perfection concealer)

  • แป้งฝุ่น (CHANEL natural finish loose powder)

  • ครีมอายแชโดว์/ ทดแทนอายชาโดว์ไพรเมอร์ (MAC paint pot)

  • อายแชโดว์ (Suqqu Blend Color Eyeshadow in 09 Usumoegi)

  • ปากกาเขียนคิ้ว(Suqqu eyebrow liquid pen R)

  • ที่ดัดขนตา (Kanebo Tesshyu collection eyelash curler )

  • มาสคาร่า (Lancome mini Hypnose Star mascara)

  • บลัชออน (Tom Ford cheek color)

  • ลิปสติก (YSL Rouge volupte shine #9 )  



ท้ายนี้ที่สำคัญ หากแต่งหน้าแล้วก็ขอให้หา "Makeup Remover" มาใช้สักหนึ่งตัว แล้วล้างหน้าทำความสะอาดให้ดีนะค่ะ เพื่อผิวหน้าที่ดี และพร้อมสำหรับการแต่งหน้าครั้งต่อไปค่ะ

รีวิว สแมชบ็อกซ์ ไพรเมอร์ ( Smashbox Photo Finish Primer Oil-Free )


มาถึงรีวิวไพรเมอร์ตัวที่ใช้มาอย่างน้อยประมาณ 3 ปี จากสแมชบ็อกซ์ตัวนี้กันนะค่ะ คุณๆ ที่ใช้ MAC Prep & Prime ก่อนหน้าเหมือนเราแล้วให้ความรู้สึกหน้ามันวาว ตัวนี้จะให้ความรู้สึกแห้งเรียบเนียนค่ะ
 

เราเองเคยหันไปทดลองสูตร light - water based แต่เราก็กลับมาให้ตัวเดิมนี้เพราะ ตัว water based ตอนทาจะแห้งช้ากว่า ให้ความรู้รึกชุ่มชื่นให้ความรู้สึกเหมือนทาโลชั่น ส่วนตัว Oil-Free จะแห้งไวกว่า รื่นกว่า  เราเองเอาความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ เลยว่าชอบตัว Oil-Free มากกว่า แต่คุณๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือผิวมันตัว water based อาจเหมาะกว่าสำหรับคุณนะค่ะ
 

เนื้อครีมเรียกได้ว่าเป็นลักษณะครีมเจล ใสไม่มีสีและไม่มีกลิ่น

ไพรเมอร์ตัวนี้ไม่ช่วยเรื่องปรับหรือแก้ไขในส่วนของสีผิว หากคุณมีปัญหาเรื่องสีผิวต้องเลือกสูตรอื่นนะค่ะ

เป็นไพรเมอร์ที่เหมาะมากกับคนที่ให้ฟาวน์เดชั่น ช่วยให้การลงฟาวน์เดชั่นรื่น เรียบเนียน ช่วยกระชับรูขุมขน หรือแม้แต่คุณๆ ที่ไม่ได้ฟาวน์เดชั่นก็ช่วยให้แป้งและเครื่องสำอางติดทนขึ้น ที่สำคัญช่วยเรื่องความมันระหว่างวันค่ะ

คะแนน : A

รีวิว เดอะบาล์ม ไทม์บาล์ม ไพรเมอร์ TheBalm Time Balm Face Primer


 
ปริมาณ 30ml. ราคา $30

สวัสดีค่ะบาล์ม ด้วยว่าเพิ่งมีโอกาสได้ทดลองผลิตภัณฑ์ของเดอะบาล์ม วันนี้มารีวิวไพรเมอร์ ให้ได้อ่านกัน


สิ่งแรกที่เห็นมาแต่ไกลคือสีของหลอดชมพูแปร๊ดได้ใจเหรือเกิน แต่อย่าให้สีหลอดทำให้คุณไม่กล้าลองนะ
หลอดดีไซน์มาถือว่าดีมากทีเดียวค่ะเพราะทำให้ง่ายต่อการควบคุมปริมาณเวลาเราบีบใช้

ส่วนเนื้อครีมไพรเมอร์เองก็เบาไม่ทำให้หนักหน้า รู้สึกไม่สบายผิวหน้า หรือรู้สึกมัน เหนอะหนะ จะให้ลุ๊คแมท ที่สำคัญไพรเมอร์ตัวนี้เราไม่แพ้...อันนี้สำคัญมาก

หลังจากลงไพรเมอร์รู้สึกว่าหน้าเรารื่น และนุ่ม ยิ่งเวลาที่ลงฟาวน์เดชั่นจะเห็นความต่างกันระหว่างวันที่เราใช้กับวันที่เราไม่ได้ใช้ไพรเมอร์เพราะว่าสิ่งนี้ช่วยให้เราลงฟาวน์เดชั่นเรียบและง่ายมาก อีกทั้งช่วยให้หน้าเราโดยเฉพาะช่วงทีโซนดู "ไม่" วาวและมันระหว่างวัน และช่วยทำให้เครื่องสำอางเราติดทนนานขึ้นค่ะ

แต่หากคุณอยากใช้ตัวนี้เพื่อช่วยในเรื่องแก้ไขสีผิวตัวนี้ไม่ช่วยนะค่ะ

ไพรเมอร์ตัวนี้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยส่วนตัวเรากลิ่นสดชื่นดี แต่สำหรับหรับคุณๆ บางคนอาจจะไม่ชอบกลิ่นนะค่ะ

คะแนน :  A
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...