Sunday, February 24, 2013

รีวิว สแมชบ็อกซ์ ไพรเมอร์ ( Smashbox Photo Finish Primer Oil-Free )


มาถึงรีวิวไพรเมอร์ตัวที่ใช้มาอย่างน้อยประมาณ 3 ปี จากสแมชบ็อกซ์ตัวนี้กันนะค่ะ คุณๆ ที่ใช้ MAC Prep & Prime ก่อนหน้าเหมือนเราแล้วให้ความรู้สึกหน้ามันวาว ตัวนี้จะให้ความรู้สึกแห้งเรียบเนียนค่ะ
 

เราเองเคยหันไปทดลองสูตร light - water based แต่เราก็กลับมาให้ตัวเดิมนี้เพราะ ตัว water based ตอนทาจะแห้งช้ากว่า ให้ความรู้รึกชุ่มชื่นให้ความรู้สึกเหมือนทาโลชั่น ส่วนตัว Oil-Free จะแห้งไวกว่า รื่นกว่า  เราเองเอาความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ เลยว่าชอบตัว Oil-Free มากกว่า แต่คุณๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือผิวมันตัว water based อาจเหมาะกว่าสำหรับคุณนะค่ะ
 

เนื้อครีมเรียกได้ว่าเป็นลักษณะครีมเจล ใสไม่มีสีและไม่มีกลิ่น

ไพรเมอร์ตัวนี้ไม่ช่วยเรื่องปรับหรือแก้ไขในส่วนของสีผิว หากคุณมีปัญหาเรื่องสีผิวต้องเลือกสูตรอื่นนะค่ะ

เป็นไพรเมอร์ที่เหมาะมากกับคนที่ให้ฟาวน์เดชั่น ช่วยให้การลงฟาวน์เดชั่นรื่น เรียบเนียน ช่วยกระชับรูขุมขน หรือแม้แต่คุณๆ ที่ไม่ได้ฟาวน์เดชั่นก็ช่วยให้แป้งและเครื่องสำอางติดทนขึ้น ที่สำคัญช่วยเรื่องความมันระหว่างวันค่ะ

คะแนน : A

รีวิว เดอะบาล์ม ไทม์บาล์ม ไพรเมอร์ TheBalm Time Balm Face Primer


 
ปริมาณ 30ml. ราคา $30

สวัสดีค่ะบาล์ม ด้วยว่าเพิ่งมีโอกาสได้ทดลองผลิตภัณฑ์ของเดอะบาล์ม วันนี้มารีวิวไพรเมอร์ ให้ได้อ่านกัน


สิ่งแรกที่เห็นมาแต่ไกลคือสีของหลอดชมพูแปร๊ดได้ใจเหรือเกิน แต่อย่าให้สีหลอดทำให้คุณไม่กล้าลองนะ
หลอดดีไซน์มาถือว่าดีมากทีเดียวค่ะเพราะทำให้ง่ายต่อการควบคุมปริมาณเวลาเราบีบใช้

ส่วนเนื้อครีมไพรเมอร์เองก็เบาไม่ทำให้หนักหน้า รู้สึกไม่สบายผิวหน้า หรือรู้สึกมัน เหนอะหนะ จะให้ลุ๊คแมท ที่สำคัญไพรเมอร์ตัวนี้เราไม่แพ้...อันนี้สำคัญมาก

หลังจากลงไพรเมอร์รู้สึกว่าหน้าเรารื่น และนุ่ม ยิ่งเวลาที่ลงฟาวน์เดชั่นจะเห็นความต่างกันระหว่างวันที่เราใช้กับวันที่เราไม่ได้ใช้ไพรเมอร์เพราะว่าสิ่งนี้ช่วยให้เราลงฟาวน์เดชั่นเรียบและง่ายมาก อีกทั้งช่วยให้หน้าเราโดยเฉพาะช่วงทีโซนดู "ไม่" วาวและมันระหว่างวัน และช่วยทำให้เครื่องสำอางเราติดทนนานขึ้นค่ะ

แต่หากคุณอยากใช้ตัวนี้เพื่อช่วยในเรื่องแก้ไขสีผิวตัวนี้ไม่ช่วยนะค่ะ

ไพรเมอร์ตัวนี้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยส่วนตัวเรากลิ่นสดชื่นดี แต่สำหรับหรับคุณๆ บางคนอาจจะไม่ชอบกลิ่นนะค่ะ

คะแนน :  A

ไพรเมอร์ / Primer


 
ไพรเมอร์ / Primer สำหรับคุณๆ ที่ยังสงสัยอยู่ว่ามันคืออะไร และใช้ยังไง มารู้จัก "ไพรเมอร์" กันค่ะ

ไพรเมอร์ เนื้อครีม, ครีมเจล, โลชั่น ก็แล้วแต่จะใช้สำหรับเป็นตัวคั่นหรือประสานระหว่างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ และฟาวน์เดชั่น, คอนซีลเลอร์ หรือบีบีครีม
 
จะใช้หลังจากเราเตรียมหน้าทาครีมบำรุง ทากันแดด กี่ชนิดก็แล้วแต่ของเราแล้ว เราก็จะลงตัวไพรเมอร์ คุณจะทาทั่วทั้งหน้า หรือทาเฉพาะบางจุดที่มันเป็นพิเศษเช่น ทาเฉพาะช่วงทีโซนก็ได้
ไพรเมอร์บางยี่ห้อเดี่ยวนี้จะมีแบบที่ผสมเบส แบบนั้นก็จะช่วยในเรื่องการปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอไปด้วย
หรือบางแบบก็มีกันแดด SPF ต่างๆ ด้วย
 
ไพรเมอร์นี้จะทำหน้าที่เตรียมผิวให้เราก่อนการแต่งหน้าคือ ก่อนที่เราจะลงฟาวน์เดชั่นหรือบีบีครีม  โดยจะช่วยในเรื่องของการกระชับรูขุมขนหรือทำให้ผิวเราดูกระชับขึ้น ช่วยให้การลงฟาวน์เดชั่นเกลี่ยได้ง่ายและดูเรียบเนียนขึ้น ช่วยคุมความมัน ไม่หมองระหว่างวันและช่วยให้เครื่องสำอางของเราติดทนนานยิ่งขึ้นค่ะ
 
 

Wednesday, May 9, 2012

รีวิวแปรงแต่งหน้า MAC (MAC Brushes ) Episode 1



สวัสดีค่ะ รีวิวนี้เป็น รีวิวต่อเนื่อง แนวๆ ซีรีย์ ^- ^ ด้วยว่าอาจจะยาวยังไงก็รอหน่อยนะค่ะ แต่ยังไงจะพยายามทำให้จบ

*ขอโทษด้วยที่แปรงบางอันยังไม่ทำความสะอาดนะค่ะเพราะเพิ่งแต่งหน้าเสร็จแล้วเอามาถ่ายรูป

เอาเป็นว่าเราจะมารีวิวแปรงแต่งหน้า MAC ให้ดูกันนะค่ะ โดยจะให้ข้อมูลคร่าวๆ สำหรับผู้สนใจ หรือคิดว่ากำลังจะซื้อ ว่าอันไหนเราใช้ทำอะไรได้บ้าง เผื่อจะช่วยในการตัดสินใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนด้วยนะค่ะ ซึ่งอาจทำให้การใช้อาจต่างกันไปนะค่ะ

แปรงที่เอามาให้ดูเราไม่ได้มีทุกเบอร์ที่มีจำหน่ายนะค่ะ เพราะ บางอันเราใช้ของแบรนด์อื่นอยู่ ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่าผลลัพธ์เราพอใจ หรือบางเบอร์เราไปทดลองใช้ที่เคาว์เตอร์มาแล้วเราไม่ได้ปลื้ม เราก็ไม่ได้ซื้อนะค่ะ

โอเค...เริ่มกันทำความรูจัก แปรงแต่งหน้า MAC กันหน่อยแล้วกัน  แปรงของMAC นี่จะมีเบอร์กำกับแต่ละอันนะค่ะ โดยจะขึ้นต้นด้วย 1 ,2 ,3

1 คือแปรงสำหรับหน้า                        

2 คือแปรงสำหรับตา          

3 คือแปรงสำหรับปาก
*แต่....ทั้งนี้ทั้งนั้นบางเบอร์ก็นำไปใช้ต่างงานกันได้อย่างที่บอกคือ ขึ้นกับความถนัดและพอใจ





แปรง MAC นี่แยกได้อีก 3 แบบ นะค่ะ คือ

1)แบบปกติ ราคาเต็ม มีขายตลอด

2) แบบ SE หรือ special edition แบบนี้จะออกมาในช่วงเทศกาล จะขายพร้อมกระเป๋าเล็กๆ ขายเป็นชุด 4- 5อันต่อชุด


รูป limited edition MAC 128 Split Fibre Cheek Brushยังมีขายตอนนี้นะค่ะ คู่กับ 234 Split Fibre Eye Blending Brush จาก MAC In Extra Dimension Collection เป็นคอลแล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิปีนี้ค่ะ
3) คือ limited edition จะเหมือนกับแบบปกติ ราคาเต็ม ทุกอย่างแต่มีขายในช่วงเวลาจำกัด

ทีนี้เราขอเอา 1 กับ 3 รวมกันเรียกเป็นแปรงขนาดปกติ กับ 2 คือแปรง SE
สองแบบนี้ต่างกันคือ แปรงขนาดปกติ เป็นแปรงที่ทำด้วยมือ ส่วนแปรง SE
ทำด้วยเครื่องจักร แปรง SE พวกนี้จะเหมาะกับการพกพาสำหรับเดินทาง คุณภาพจะต่างกับขนาดปกตินะค่ะ แต่ถึงแม้แปรงขนาดปกติราคาต่ออันอาจถือว่าแพง แต่หากคุณเอาราคาหารด้วยจำนวนปี ซึ่งแปรง MAC จะขึ้นชื่อในคุณภาพและเป็นแปรงที่ใช้งานได้หลายปีมากๆ เราก็ถือว่าโอเค อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเรานะค่ะ แล้วต่อไปจะมาเขียนรีวิวแต่ละเบอร์ให้นะค่ะวันนี้แค่นี้ก่อนค่ะ


บลัชนาร์ส NARS – Gina Blush และสวอตช์สีบลัชออน นาร์ส




เป็นหนึ่งบลัชที่เม็ดสีเข้ม ออกสีส้มพีช เนื้อแมท สีนี้ในความคิดเห็นของเราดูดีบนคนผิวขาวและผิวเข้ม ยิ่งใช้คู่กับบลอนเซอร์ในช่วงหน้าร้อนทำให้ดูสุภาพดี สดชื่น และ ดูสว่าง เป็นธรรมชาติ ตลับนี้เป็นตลับที่สอง ด้วยว่าตลับแรกมีเพื่อนสาวแอบจิ๊กไป เพราะเค้าชอบมากแล้วในสวิตฯ เคาน์เตอร์นารส์ก็อยู่ซะตั้งไกล แต่เราก็ยังดั้นด้นหาซื้อมาทดแทนจนได้ คุณๆ คงเดาออกใช่มั้ยคะ? ว่าเราชอบบลัชอันนี้รึเปล่านะค่ะ
^-^


คะแนน : A

สวอตช์สีบลัชนาร์ส

Crazed : สีชมพูราสเบอร์รี่ มีชิมเมอร์สีเงินและทอง

Angelika : สีคอตตอนแคนดี้ มีสปาร์คเคิลสีเงินและทอง

Orgasm: สีชมพูพีช มีชิมเมอร์สีทอง

Deep Throat : สีชมพูพีชอ่อน มีชิมเมอร์ละเอียดสีทอง

Sin : สีออกพลัม-เบอร์รี่ มีชิมเมอร์ละเอียดสีทอง

Douceur : สีชมพูน้ำตาลอ่อน เนื้อแมท

Gilda : สีส้มโครอลเหลือบแดงอ่อน

Taj Mahal : สีส้มสด มีชิมเมอร์ละเอียดสีทอง
 



 
 

Tuesday, May 8, 2012

การดีพอทลิปสติก - How To Depot Lipstick (การเอาลิปสติกมาใส่พาเลท)


สวัสดีค่ะ เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะรู้ว่าทำยังไง แต่เราก็เชื่อบางคนอาจจะยังไม่รู้ ว่าเมื่อ ลิปสติก แท่งโปรด เกิด หัก หรือเราพกพาไว้ในกระเป๋าแต่หากช่วงนั้นแดดแรง หรือลืมตั้งกระเป๋าไว้ใกล้ความร้อนแล้ว ลิปสติกเกิดเหลวขึ้นมา อาจทำให้แอบเช็งตัวเองไปเหมือนกัน
โดยส่วนตัวที่นึกถึงการดีพอทตอนแรกก็อย่างด้านบน แต่ตอนนี้พอเดินทางบ่อย อยากพกลิปสติกหลายสีแต่บางที่ต้องพกสี่ถึงห้าแท่งต่อทริป ก็ทำให้อยากได้ลิปสติกมาไว้ใน 1 พาเลท แต่ก็ไม่อยากไปหาซื้อลิปสติกเป็นพาเลท ก็เลยกลับมาดีพอทลิปสติกอีกครั้ง

เอาเป็นว่ามาดีพอทกันดีกว่าค่ะ ... หากคุณไม่มีที่หนีบผม และไม่มีแพน แบบที่เราทำ สามารถใช้ไดร์เป่าผมได้นะค่ะ แพนเปลี่ยนเป็นกระปุกแล็กๆ หรือหาเป็นพาเลทพลาสติกก็ได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดและความชอบส่วนตัวกันเลยค่ะ



อุปกรณ์ที่ต้องใช้


1.ลิปสติกที่ต้องการดีพอท

2.พาเลท

3.แพนเปล่า

4.แผ่นแม่เหล็ก

5.แผ่นเลเบล สำหรือเขียนชื่อหากลิปสติกของเราดีพอทไม่หมดทั้งแท่ง(หากดีพอทหมดใช้สติกเกอร์ชื่อและสีจากแท่งลิปติกได้เลย)

6.ที่หนีบผมแบบหน้าเรียบ

7.ส้อมหรือช้อนขนาดเล็ก และ มีด

8.แอลกอฮอล์ ไอโซโปรพิล ( isopropyl ) และแอลกอฮอล์สำหรับทความสะอาดมือ

9.กระดาษไข แบบใช้สำหรับเตาอบแผ่นเล็กๆ



เสียบปลั๊กที่หนีบผมก่อนเลยค่ะ แล้ว*ล้างมือและอุปกรณ์อันไหนที่ต้องฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดให้เรียบร้อยนะค่ะ



ใช้มีดตัดลิปสติก วางพักไว้แล้วใช้ปลายซ้อมขนาดเล็ก ตักลิปสติกส่วนที่อยู่ในหลอดออกมาใส่แพน

(ส่วนด้านในหลอดกับนิ๊ดเดียวของส่วนที่เราตัดพักไว้จะได้ 1 แพนเต็มพอดีค่ะ)



ส่วนที่เหลือสามารถใส่กลับเข้าไปให้เป็นแท่งใหม่ที่สั้นกว่าเดิม



นำแพนที่เต็มพอดีวางบนแผ่นกระดาษไขแล้วนำ ไปวางบนที่หนีบผม

Depotting  MAC lipsticks
ใช้เวลาไม่นานลิปสติกของเราก็จะละลายเมื่อละลายหมด เอาออกมาพักให้เย็นนะค่ะ

จากนั้นเราเขียนชื่อลิปสติก หรือลอกสติกเกอร์ชื่อลิปสติกโดยใช้เทียนลนที่สติกเกอร์ความร้อนจะทำให้ลอกสติกเกอร์ออกได้ง่ายค่ะ แล้วก็นำแผ่นแม่เหล็กมาติดแล้วเก็บเข้าพาเลทได้เลยค่ะ

ยาทาเล็บ ESSIE 2012 Spring Mini Collection [Limited]

ยาทาเล็บ ESSIE เซ็ตนี้ มี 4 ขวดเล็กๆ ใน 1 เซ็ต

Ole Caliente สีแดงสดมีสีบานเย็นอันเดอร์โทน
To Buy or Not To Buy สีม่วง ชิมเมอร์ม่วงน้ำเงิน
Tour de Fiance สีบานเย็นเหลือบมุก
Navigate Her สีเขียวอ่อนพิสตาชิโอ

เราเห็นแล้วชอบตั้งแต่ออกมาเลย แต่เพิ่งได้ใช้ไปสองสีนะค่ะ จึงมีรูปสีที่ทาบนเล็บแค่สองสี  :) อีกสองสีคิดว่าเหมาะกับวันฝนตกฉ่ำๆ อย่างตอนนี้แล้วก็เหมาะกับช่วงหน้าร้อนด้วย


Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...