Wednesday, May 9, 2012

รีวิวแปรงแต่งหน้า MAC (MAC Brushes ) Episode 1



สวัสดีค่ะ รีวิวนี้เป็น รีวิวต่อเนื่อง แนวๆ ซีรีย์ ^- ^ ด้วยว่าอาจจะยาวยังไงก็รอหน่อยนะค่ะ แต่ยังไงจะพยายามทำให้จบ

*ขอโทษด้วยที่แปรงบางอันยังไม่ทำความสะอาดนะค่ะเพราะเพิ่งแต่งหน้าเสร็จแล้วเอามาถ่ายรูป

เอาเป็นว่าเราจะมารีวิวแปรงแต่งหน้า MAC ให้ดูกันนะค่ะ โดยจะให้ข้อมูลคร่าวๆ สำหรับผู้สนใจ หรือคิดว่ากำลังจะซื้อ ว่าอันไหนเราใช้ทำอะไรได้บ้าง เผื่อจะช่วยในการตัดสินใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนด้วยนะค่ะ ซึ่งอาจทำให้การใช้อาจต่างกันไปนะค่ะ

แปรงที่เอามาให้ดูเราไม่ได้มีทุกเบอร์ที่มีจำหน่ายนะค่ะ เพราะ บางอันเราใช้ของแบรนด์อื่นอยู่ ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่าผลลัพธ์เราพอใจ หรือบางเบอร์เราไปทดลองใช้ที่เคาว์เตอร์มาแล้วเราไม่ได้ปลื้ม เราก็ไม่ได้ซื้อนะค่ะ

โอเค...เริ่มกันทำความรูจัก แปรงแต่งหน้า MAC กันหน่อยแล้วกัน  แปรงของMAC นี่จะมีเบอร์กำกับแต่ละอันนะค่ะ โดยจะขึ้นต้นด้วย 1 ,2 ,3

1 คือแปรงสำหรับหน้า                        

2 คือแปรงสำหรับตา          

3 คือแปรงสำหรับปาก
*แต่....ทั้งนี้ทั้งนั้นบางเบอร์ก็นำไปใช้ต่างงานกันได้อย่างที่บอกคือ ขึ้นกับความถนัดและพอใจ





แปรง MAC นี่แยกได้อีก 3 แบบ นะค่ะ คือ

1)แบบปกติ ราคาเต็ม มีขายตลอด

2) แบบ SE หรือ special edition แบบนี้จะออกมาในช่วงเทศกาล จะขายพร้อมกระเป๋าเล็กๆ ขายเป็นชุด 4- 5อันต่อชุด


รูป limited edition MAC 128 Split Fibre Cheek Brushยังมีขายตอนนี้นะค่ะ คู่กับ 234 Split Fibre Eye Blending Brush จาก MAC In Extra Dimension Collection เป็นคอลแล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิปีนี้ค่ะ
3) คือ limited edition จะเหมือนกับแบบปกติ ราคาเต็ม ทุกอย่างแต่มีขายในช่วงเวลาจำกัด

ทีนี้เราขอเอา 1 กับ 3 รวมกันเรียกเป็นแปรงขนาดปกติ กับ 2 คือแปรง SE
สองแบบนี้ต่างกันคือ แปรงขนาดปกติ เป็นแปรงที่ทำด้วยมือ ส่วนแปรง SE
ทำด้วยเครื่องจักร แปรง SE พวกนี้จะเหมาะกับการพกพาสำหรับเดินทาง คุณภาพจะต่างกับขนาดปกตินะค่ะ แต่ถึงแม้แปรงขนาดปกติราคาต่ออันอาจถือว่าแพง แต่หากคุณเอาราคาหารด้วยจำนวนปี ซึ่งแปรง MAC จะขึ้นชื่อในคุณภาพและเป็นแปรงที่ใช้งานได้หลายปีมากๆ เราก็ถือว่าโอเค อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเรานะค่ะ แล้วต่อไปจะมาเขียนรีวิวแต่ละเบอร์ให้นะค่ะวันนี้แค่นี้ก่อนค่ะ


บลัชนาร์ส NARS – Gina Blush และสวอตช์สีบลัชออน นาร์ส




เป็นหนึ่งบลัชที่เม็ดสีเข้ม ออกสีส้มพีช เนื้อแมท สีนี้ในความคิดเห็นของเราดูดีบนคนผิวขาวและผิวเข้ม ยิ่งใช้คู่กับบลอนเซอร์ในช่วงหน้าร้อนทำให้ดูสุภาพดี สดชื่น และ ดูสว่าง เป็นธรรมชาติ ตลับนี้เป็นตลับที่สอง ด้วยว่าตลับแรกมีเพื่อนสาวแอบจิ๊กไป เพราะเค้าชอบมากแล้วในสวิตฯ เคาน์เตอร์นารส์ก็อยู่ซะตั้งไกล แต่เราก็ยังดั้นด้นหาซื้อมาทดแทนจนได้ คุณๆ คงเดาออกใช่มั้ยคะ? ว่าเราชอบบลัชอันนี้รึเปล่านะค่ะ
^-^


คะแนน : A

สวอตช์สีบลัชนาร์ส

Crazed : สีชมพูราสเบอร์รี่ มีชิมเมอร์สีเงินและทอง

Angelika : สีคอตตอนแคนดี้ มีสปาร์คเคิลสีเงินและทอง

Orgasm: สีชมพูพีช มีชิมเมอร์สีทอง

Deep Throat : สีชมพูพีชอ่อน มีชิมเมอร์ละเอียดสีทอง

Sin : สีออกพลัม-เบอร์รี่ มีชิมเมอร์ละเอียดสีทอง

Douceur : สีชมพูน้ำตาลอ่อน เนื้อแมท

Gilda : สีส้มโครอลเหลือบแดงอ่อน

Taj Mahal : สีส้มสด มีชิมเมอร์ละเอียดสีทอง
 



 
 

Tuesday, May 8, 2012

การดีพอทลิปสติก - How To Depot Lipstick (การเอาลิปสติกมาใส่พาเลท)


สวัสดีค่ะ เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะรู้ว่าทำยังไง แต่เราก็เชื่อบางคนอาจจะยังไม่รู้ ว่าเมื่อ ลิปสติก แท่งโปรด เกิด หัก หรือเราพกพาไว้ในกระเป๋าแต่หากช่วงนั้นแดดแรง หรือลืมตั้งกระเป๋าไว้ใกล้ความร้อนแล้ว ลิปสติกเกิดเหลวขึ้นมา อาจทำให้แอบเช็งตัวเองไปเหมือนกัน
โดยส่วนตัวที่นึกถึงการดีพอทตอนแรกก็อย่างด้านบน แต่ตอนนี้พอเดินทางบ่อย อยากพกลิปสติกหลายสีแต่บางที่ต้องพกสี่ถึงห้าแท่งต่อทริป ก็ทำให้อยากได้ลิปสติกมาไว้ใน 1 พาเลท แต่ก็ไม่อยากไปหาซื้อลิปสติกเป็นพาเลท ก็เลยกลับมาดีพอทลิปสติกอีกครั้ง

เอาเป็นว่ามาดีพอทกันดีกว่าค่ะ ... หากคุณไม่มีที่หนีบผม และไม่มีแพน แบบที่เราทำ สามารถใช้ไดร์เป่าผมได้นะค่ะ แพนเปลี่ยนเป็นกระปุกแล็กๆ หรือหาเป็นพาเลทพลาสติกก็ได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดและความชอบส่วนตัวกันเลยค่ะ



อุปกรณ์ที่ต้องใช้


1.ลิปสติกที่ต้องการดีพอท

2.พาเลท

3.แพนเปล่า

4.แผ่นแม่เหล็ก

5.แผ่นเลเบล สำหรือเขียนชื่อหากลิปสติกของเราดีพอทไม่หมดทั้งแท่ง(หากดีพอทหมดใช้สติกเกอร์ชื่อและสีจากแท่งลิปติกได้เลย)

6.ที่หนีบผมแบบหน้าเรียบ

7.ส้อมหรือช้อนขนาดเล็ก และ มีด

8.แอลกอฮอล์ ไอโซโปรพิล ( isopropyl ) และแอลกอฮอล์สำหรับทความสะอาดมือ

9.กระดาษไข แบบใช้สำหรับเตาอบแผ่นเล็กๆ



เสียบปลั๊กที่หนีบผมก่อนเลยค่ะ แล้ว*ล้างมือและอุปกรณ์อันไหนที่ต้องฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดให้เรียบร้อยนะค่ะ



ใช้มีดตัดลิปสติก วางพักไว้แล้วใช้ปลายซ้อมขนาดเล็ก ตักลิปสติกส่วนที่อยู่ในหลอดออกมาใส่แพน

(ส่วนด้านในหลอดกับนิ๊ดเดียวของส่วนที่เราตัดพักไว้จะได้ 1 แพนเต็มพอดีค่ะ)



ส่วนที่เหลือสามารถใส่กลับเข้าไปให้เป็นแท่งใหม่ที่สั้นกว่าเดิม



นำแพนที่เต็มพอดีวางบนแผ่นกระดาษไขแล้วนำ ไปวางบนที่หนีบผม

Depotting  MAC lipsticks
ใช้เวลาไม่นานลิปสติกของเราก็จะละลายเมื่อละลายหมด เอาออกมาพักให้เย็นนะค่ะ

จากนั้นเราเขียนชื่อลิปสติก หรือลอกสติกเกอร์ชื่อลิปสติกโดยใช้เทียนลนที่สติกเกอร์ความร้อนจะทำให้ลอกสติกเกอร์ออกได้ง่ายค่ะ แล้วก็นำแผ่นแม่เหล็กมาติดแล้วเก็บเข้าพาเลทได้เลยค่ะ

ยาทาเล็บ ESSIE 2012 Spring Mini Collection [Limited]

ยาทาเล็บ ESSIE เซ็ตนี้ มี 4 ขวดเล็กๆ ใน 1 เซ็ต

Ole Caliente สีแดงสดมีสีบานเย็นอันเดอร์โทน
To Buy or Not To Buy สีม่วง ชิมเมอร์ม่วงน้ำเงิน
Tour de Fiance สีบานเย็นเหลือบมุก
Navigate Her สีเขียวอ่อนพิสตาชิโอ

เราเห็นแล้วชอบตั้งแต่ออกมาเลย แต่เพิ่งได้ใช้ไปสองสีนะค่ะ จึงมีรูปสีที่ทาบนเล็บแค่สองสี  :) อีกสองสีคิดว่าเหมาะกับวันฝนตกฉ่ำๆ อย่างตอนนี้แล้วก็เหมาะกับช่วงหน้าร้อนด้วย


Tuesday, April 24, 2012

รีวิว Urban Decay Naked 2 Palette

ราคา 36 ปอนด์สเตอร์ลิง มีอายชาโดว์ 12 สี มาในพาเลท มีทั้งแมท ชิมเมอร์ และกลิทเตอร์ พร้อมแปรงสำหรับแต่งตา และลิปกลอส ขนาดจิ๋ว- สีออกชมพูอมน้ำตาล

อายชาโดว์ ทุกสีก็ตามคุณภาพของ Urban Decay เม็ดสีดีและแบลนง่ายค่ะ มีสีที่เป็นกลิทเตอร์นะค่ะที่อาจมีตกร่วงกันบ้าง ตามสไตล์อายชาโดว์กลิทเตอร์นะค่ะ

สีในพาเลทนี้มีทั้ง เฉดสีร้อน สีกลาง และสีเย็น

มาดู 12 สีที่ว่ากันดีกว่าค่ะ

Foxy: สีแมท นู้ด

Half Baked: สีนี้เป็นสีที่มี Naked palette อันแรกนะค่ะ เป็นสีทอง ชิมเมอร์

Bootycall: สีชมพูอ่อนชิมเมอร์

Chopper: สีออกทองแดง มีกลิทเตอร์

Tease: เป็นสีแมทออกน้ำตาลเข้มเหลือบแดง

Snakebite: สีออกสีน้ำตาลทอง


Suspect: สีออกนู้ดทองมีชิมเมอร์

Pistol: สีน้ำตาลเหลือบเงิน ทองนิดๆ

Verve: สีชมพูเงินเหมาะกับลงเป็นสีอ่อนสุด และไฮไลท์

YDK: สีบรอนซ์ ชิมเมอร์

Busted: สีน้ำตาลพลัมเข้ม มีชิมเมอร์

Blackout: สีดำแมท  

แปรงที่ได้มากับพาเลทนี้ไม่ต่างกับพาเลทที่แล้วนะค่ะ ส่วนตัวเรา เหมาะกับใช้กับพวกเพ้นท์พอท ครีมอายชาโดว์ ไม่เหมาะกับอายชาโดว์พาเลทนี้ค่ะ

 พาเลทอันนี้เห็นแล้วทำให้นึกถึงกล่องดินสอสมัยเด็ก มาเป็นกล่องเหล็ก ทนทานเหมาะกับการพกพาสำหรับเดินทาง แต่มีทรมานคนใช้คือเปิดทีแปรงปลิวเลยค่ะ แน่นมากค่ะ

Eyeshadow: 12 x 1.3g e 12 x 0.05 US oz, Lip Junkie: 3.23ml e 0.11 US fl oz

Urban Decay Naked Palette พาเลทบน  VS Urban Decay Naked2 Palette พาเลทล่าง




คะแนน : B

Monday, April 23, 2012

เครื่องสำอาง MAC ซื้อได้จากที่ไหน - Mac Cosmetics store locations in Thailand

เนื้อหาด้านล่างนี้เป็นที่ตั้งของร้าน หรือเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง MAC ในเมืองไทยนะค่ะ
คลิ๊กที่รูปเพื่อขยายขนาดค่ะ




กรุงเทพฯ

MAC สยามเซ็นเตอร์
MAC พารากอน
MAC เซ็นทรัล ชิดลม
MAC เซ็นทรัล ลาดพร้าว
MAC เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
MAC เซ็นทรัล บางนา
MAC เซน
MAC ดิเอ็มโพเรียม
MAC เดอะมอลล์ บางกะปิ
MAC เดอะมอลล์ บางแค
MAC พาราไดซ์ พาร์ค

นนทบุรี

MAC เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
MAC เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน

MAC โรบินสัน เชียงใหม่
MAC โรบินสัน ขอนแก่น
มีเพิ่มอีกซึ่งในรูปด้านบนไม่บอกไว้นะค่ะ คือ
กรุงเทพฯ

MAC เซ็นทรัล รามา 2 TEL. 02872 4420
MAC เซ็นทรัล รามา 9 TEL. 02108 1072
MAC สีลม Complex TEL. 02632 0061

MAC เซ็นทรัล หาดใหญ่, สงขลา TEL. 07424 4089

เคาน์เตอร์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 นับเป็นสองที่นะค่ะด้วยว่า มี East Wing TEL. 02 134 888  ต่อ 6404 กับ West Wing TEL. 02 134 888 ต่อ 6479


ช้อปปิ้งออนไลน์ 
 
 
 
 
 

กบเหลาดินสอ ( เครื่องสำอาง ) - Urban Decay Grind House (sharpener)




รู้สึกแปลกๆนิดหน่อยที่วันนี้รีวิวกบเหลาดินสอ แต่อาจมีหลายคนที่เป็นเหมือนเราคือ บางครั้งไม่อยากซื้อ pencil eyeliner ,Lip Pencil ,Jumbo Eye Pencil หรือ เครื่องสำอางที่เป็นดินสอเพราะกบเหลาที่มี เหลาทีกินอายไลเนอร์ไปครึ่งแท่ง บางคิดว่าดีที่ไหนได้ พอเริ่มเขียนกลับหักให้ชํ้าใจอีก บางครั้งลงทุนเก็บไว้ในตู้เย็นก่อนที่จะเหลา แต่ก็ยังทําเราจนได้



สรุปเราเคยใช้มาหลายแบรนด์ อันนี้คืออันที่ดีที่สุด ที่เราเคยใช้มาค่ะ อาจจะแพงหน่อยแต่ไม่ต้องหาซื้อกบเหลาดินสอใหม่ และไม่ต้องซื้ออายไลเนอร์แท่งใหม่ ก็ถือว่าช่วยประหยัดคุ้มค่าตัวค่ะ


คะแนน : A-
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...